วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2555

Conjunctive Adverb

Conjunctive Adverb (หรือจะเรียก Relative Adverb ก็ได้) แปลว่า "กริยาวิเศษณ์สันธาน" ถ้าดูให้ลึกซึ้งแล้วกริยาวิเศษณ์สันธานก็ได้แก่ Interrogative Adverb นั่นเอง เพียงแต่ ณ ที่นี่มิได้ทำหน้าที่เป็นคำถาม หากแต่ใช้ทำหน้าที่เป็นกริยาวิเศษณ์ขยายกริยาในประโยคของตัวเองและในเวลาเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็น Conjunction (สันธาน) เชื่อมข้อความของประโยคหน้ากับประโยคหลัง ให้กลมกลืนกันอีกด้วย เพราะฉะนั้นจึงได้เรียก Interrogative Adverb ที่นำมาใช้ตามความหมายนี้ว่าเป็น Conjunction Adverb หรือ "กริยาวิเศษณ์สันธาน" เช่น


This is the place where we live.
นี้คือสถานที่ที่เราอาศัยอยู่

ประโยคนี้แยกเป็นประโยคเล็กได้ 2 ประโยค คือ

A. This is the place.

B. Where we live.

คำว่า where ในประโยค b นั้นเป็นกริยาวิเศษณ์ขยายกริยา live และในเวลาเดียวกันนี้ก็ทำหน้าที่เป็นสันธานเชื่อมความกับประโยค a ด้วย ฉะนั้นจึงได้รูปประโยคออกมาเป็น This is the place where we live.

Conjunctive Adverb แบ่งออกเป็นชนิดย่อยๆ ได้ 6 ชนิด คือ


  1. Conjunctive Adverb of Time แปลว่า "สันธานวิเศษณ์บอกเวลา" หมายถึง คำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยคและขยายกริยาเพื่อบอกเวลา ได้แก่ When (เมื่อไร) เช่น

    Can you tell me when he will arrive here ?
    คุณบอกผมได้ไหมว่าเมื่อไรเขาจะมาถึงที่นี่ ?

    I know when he will come.
    ผมรู้ว่าเมื่อไรเขาจะมา

    (when ทั้ง 2 ประโยคทำหน้าที่ขยายกริยา will arrive และ will come และในเวลาเดียวกันก็เชื่อมข้อความประโยคหน้าและประโยคหลังให้กลมกลืนกันด้วย เพราะฉะนั้นจึงทำหน้าที่เป็น "สันธานวิเศษณ์บอกเวลา")



  2. Conjunctive Adverb of Place แปลว่า "สันธานวิเศษณ์บอกสถานที่" หมายถึง คำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค และขยายกริยาเพื่อบอกสถานที่ ได้แก่คำว่า where (ที่ไหน, ที่ที่) เช่น

    This is where I stayed last year.
    นี้คือสถานที่ที่ผมมาพักอยู่เมื่อปีกลายนี้

    Ladda will go where she can live happily.
    ลัดดาจะไปยังสถานที่ที่หล่อนสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข

    (whereทั้ง 2 ประโยค ทำหน้าที่ 2 อย่างคือ ขยายกริยา stayed และ live และในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยคหน้า - หลัง เข้าด้วยกันด้วย)



  3. Conjunctive Adverb of Frequency แปลว่า "สันธานวิเศษณ์บอกความถี่" (บางตำราเรียก Number แปลว่า "บอกจำนวน" ก็มี) หมายถึง คำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค และขยายกริยาเพื่อบอกความถี่หรือจำนวนครั้ง ได้แก่คำว่า How often (บ่อยไหม, กี่ครั้ง) เช่น

    I asked him how often he had gone there.
    ผมถามเขาว่า เขาไปที่นั่นบ่อยไหม

    Please tell me how often she asks for money each day.
    กรุณาบอกผมด้วยว่าแต่ละวันหล่อนขอเงินกี่ครั้ง

    (how often ทั้ง 2 ประโยค ทำหน้าที่เชื่อมประโยคหน้า - หลัง ให้มีเนื้อความกลมกลืนกัน และในขณะเดียวกันก็มาขยายกริยา had gone และ asks เพื่อบอกความถี่หรือจำนวนครั้งอีกด้วย)



  4. Conjunctive Adverb of Manner แปลว่า "สันธานวิเศษณ์บอกกิริยาอาการ" หมายถึง คำที่ไปทำหน้าที่ทั้งเชื่อมประโยคและขยายกริยาเพื่อบอกอาการของพฤติกรรม หรือการกระทำอันนั้นๆ ว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ได้แก่คำว่า how (อย่างไร) เช่น

    My father knows how I shot the tiger.
    คุณพ่อของผมรู้ดีว่า ผมยิงเสือตัวนี้ได้อย่างไร

    The goverment asked me how I had got the money.
    รัฐบาลถามว่า ผมได้เงินนี้มาได้อย่างไร ?

    (how ในประโยคทั้ง 2 เป็นสันธานวิเศษณ์บอกกิริยาอาการ เพราะทำหน้าที่เชื่อมประโยคหน้า - หลัง ให้สัมพันธ์กันและในเวลาเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นกริยาวิเศษณ์ขยายกริยา shot และ had got อีกด้วย)



  5. Conjunction Adverb of Quantity (or Degree) แปลว่า "สันธานวิเศษณ์บอกปริมาณ" หมายถึง คำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค และขยายกริยาเพื่อบอกปริมาณมากน้อย ได้แก่คำว่า How long (นานเท่าไร) How far (ไกลเท่าไร) เช่น

    No one knows how long she will live with him.
    ไม่มีใครทราบหรอกว่า หล่อนจะอยู่กับเขานานเท่าไร

    The police wonder how far this man can tell the truth.
    เจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัย (เหมือนกัน) ว่า ชายคนนี้จะบอกความจริงให้ทราบได้มากขนาดไหน

    (how long และ how far เป็นสันธานวิเศษณ์บอกปริมาณ ทำหน้าที่เชื่อมประโยค หน้า - หลัง และขยายกริยา live กับ tell เพื่อบอกปริมาณ)



  6. Conjunctive Adverb of Reason (or cause) แปลว่า "สันธานวิเศษณ์บอกเหตุผล" หมายถึง คำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยคหน้า - หลังให้กลมกลืนกัน และขยายกริยาในประโยคหลังเพื่อบอกเหตุผลสำหรับการกระทำนั้นๆ ด้วย เช่น

    Panya did not know why she cried.
    ปัญญาไม่ทราบเลยว่า ทำไมหล่อนจึงร้องไห้

    I want to know why he said like that.
    ผมอยากรู้ว่าทำไมเขาจึงพูดเช่นนั้น

    (Why ทั้ง 2 ประโยคเป็น สันธานวิเศษณ์บอกเหตุผล มาทำหน้าที่เชื่อมประโยคหน้า - หลังให้กลมกลืนกัน และในขณะเดียวกันก็เป็นกริยาวิเศษณ์มาขยายกริยา cried และ said เพื่อบอกเหตุผล)
หมายเหตุ : Conjunctive Adverb ทุกชนิดต้องวางไว้กลางประโยคเสมอ


0 ความคิดเห็น

Posts a comment

 
© 2011 English For Communication
Designed by Blog Thiết Kế
Back to top